เดี๋ยวนี้โลกมันโหดร้ายขึ้นทุกวัน ทุกคนจะต้องเจอกับสภาวะความเครียดจากการทำงาน เครียดเรื่องการเงิน เรื่องการเรียน สภาพแวดล้อมต่างๆ ที่อาจส่งผลทำให้จิตใจของเราบอบบาง วิตกกังวล เครียด หรือถึงขั้นร้ายแรงจนเป็นโรคซึมเศร้าได้ เพราะฉะนั้นเรามาเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับสภาพจิตใจของเรากันดีกว่า กับ 5 วิธีนี้
ฟื้นฟูจิตใจให้แข็งแรงด้วย 5 วิธีนี้
1.ฝึกทำสมาธิ
จิตที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวต่างๆในชีวิตประจำวัน ทั้งดีและไม่ดี จำต้องมีเวลาหยุดพัก เพื่อชำระล้างจิตใจให้สะอาด ผ่องใสการทำสมาธิจึงเป็นสิ่งที่เราต้องปฏิบัติอยู่เป็นประจำ เพราะ การทำสมาธิเป็นการฝึกจิตที่ดีที่สุด ช่วยให้จิตมีพลังเข้มแข็ง ด้วยวิธีการง่ายๆ เช่น นั่งในท่าที่สบาย หลับตา หายใจเข้าช้าๆ กลั้นไว้ชั่วครู่ แล้วค่อยๆผ่อนลมหายใจออกช้าๆ จะช่วยให้จิตผ่อนคลายขึ้น นิ่งขึ้น และสงบขึ้น นอกจากการทำสมาธิจะช่วยให้จิตมีพลังแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงด้วย เพราะ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟินออกมา ช่วยลดอาการเจ็บปวด เพิ่มภูมิต้านทานโรค ลดความตึงเครียด ลดความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลในเลือด
2.มองโลกในแง่ดี
การมองโลกในแง่ร้ายจะส่งผลให้จิตใจมีแต่ความกังวล หวั่นไหว ท้อถอย และเศร้าโศก ส่งผลให้สภาพจิตใจเสียหาย และอาจนำคุณไปสู่ความล้มเหลวได้ ไม่ว่าคุณจะพยายามต่อสู้แค่ไหนก็ตาม
ในขณะที่การมองโลกในแง่ดีจะมีผลตรงกันข้าม ลองหลับตาและจินตนาการถึงงานที่คุณกำลังทำอยู่ให้ดำเนินไปด้วยความสำเร็จ ความสำเร็จกำลังรอคุณอยู่ข้างหน้า และเมื่อเปิดตาขึ้น คุณจะพบว่าตัวเองพร้อมที่จะทำสิ่งที่มุ่งหวังให้สำเร็จด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งเกินร้อย
3.เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา
เมื่อเรามีอายุมากขึ้น เรามักจะติดอยู่กับรูปแบบและแนวคิดเดิมๆมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตในแต่ละวันเหมือนเดิมๆและไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เรารู้สึกเบื่อหน่ายและเศร้าหมองได้เป็นประจำ แต่การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จะช่วยสร้างเครือข่ายประสาทเส้นใหม่ ทำให้จิตใจกลับมาคึกคักสดใสอีกครั้ง ตัวอย่างเช่น ลองเดินทางในเส้นทางใหม่ ที่ไม่เคยไปมาก่อน ลองลิ้มรสอาหารที่แตกต่างจากเดิม เช่น แทนการรับประทานเนื้อสัตว์ด้วยผัก เป็นต้น ซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายดีขึ้นได้เช่นกัน
4.มีเป้าหมายในชีวิต
การวางเป้าหมายในชีวิต จะทำให้เรารู้ว่าเราต้องการสิ่งใด และวางแผนเพื่อจุดประสงค์อะไร แต่ระหว่างการเดินทางตามเป้าหมายที่วางไว้ อาจเต็มไปด้วยอุปสรรค ที่ส่งผลต่อจิตใจ อาจทำให้รู้สึกผิดหวัง เหนื่อยล้า ท้อแท้ได้ แนะนำให้เราอดทน และมีกำลังใจ มีความพยายาม และมองอุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดาที่เดี๋ยวมาแล้วเดี๋ยวก็ไป
5.อย่าเก็บความทุกข์เอาไว้
ท้ายที่สุด คือการปลดปล่อยความทุกบ์ ไม่ควรเก็บความทุกข์เอาไว้กับตนเองนานเกินไป เมื่อไหร่ที่รู้สึกแย่ รู้สึกเครียด ให้เราหาที่ระบายอาจเป็นเพื่อนสนิท แฟน ครอบครัว ของเรา ที่คอยให้กำลังใจเราในยามท้อแท้ ก็จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของเราได้เช่นกัน หรือหากไม่รู้จะระบายกับใคร ก็สามารถพูดต่อหน้าพระพุทธรูปได้ และนั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ